จะคลอดแล้ว! ต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง?
การเตรียมตัว และเตรียมของใช้จำเป็นก่อนคลอดนั้นเป็นเรื่องที่ดี เพราะเมื่อเจ็บท้องคลอดขึ้นมาจริงๆ จะได้ไม่ฉุกละหุกจนเกินไป หากถึงเวลานั้นเราก็ยังสามารถเอาเวลาไปเตรียมใจเตรียมกายให้พร้อมต้อนรับสมาชิกคนใหม่ได้อย่างเต็มที่!
1. ฝากครรภ์ และ หาฤกษ์คลอด : การฝากครรภ์ก็เพื่อให้ทราบถึงพัฒนาการและสุขภาพของเบบี๋ของคุณ นอกจากนั้นการหาฤกษ์คลอดสำหรับว่าที่คุณแม่บางท่านจะถือว่าการที่ลูกคลอดออกมาในเวลาที่เหมาะสมจะทำให้ชีวิตของหนูน้อยราบรื่น
2. คิดชื่อให้ลูกน้อย : เป็นหนึ่งเรื่องที่ต้องให้ความใส่ใจ เพราะชื่อที่ดีจะช่วยเสริมสร้างสิริมงคลในชีวิตของเจ้าตัวน้อยได้
3. ทำเรื่องลาคลอด : หากคุณแม่ต้องลาคลอดควรยื่นคำขอล่วงหน้า โดยใช้แค่ใบรับรองแพทย์ ลาได้ถึง 90วัน หรืออาจจะมากกว่านั้น นอกจากนี้คุณพ่อเองก็สามารถลาได้เช่นกัน แม้ว่าจะลาได้ไม่เกิน 15วันก็ตาม
4. หมั่นตรวจร่างกาย และเช็คความเป็นอยู่ของเบบี๋ทุกเดือน : โดยไปตามนัดของคุณหมอทุกครั้ง! เพื่อเช็คร่างกายให้พร้อม เมื่อเริ่มเข้าสู่เดือนที่ 9 นั้นคุณหมอจะนัดตรวจทุกสัปดาห์
5. เคลียร์ตัวให้สบาย โดยเตรียมใจและกายให้พร้อมคลอด : เรื่องนี้เป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างมาก เพราะหากว่าที่คุณแม่เครียดจนเกินไปจะส่งผลต่อเบบี๋ได้ ควรหาวิธีผ่อนคลาย เช่นการฟังเพลง ออกกำลังกายเบาๆ หรือนั่งสมาธิ
6. เตรียมของใช้จำเป็นสำหรับการพักระยะยาวช่วงก่อนคลอดและหลังคลอด : หากใกล้คลอดว่าที่คุณแม่อาจต้องไปพักที่โรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน ของใช้จำเป็นต่างๆจึงจำเป็นต้องจัดไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ
7. การเตรียมของใช้หรือสิ่งจำเป็นสำหรับเบบี๋ : ของใช้สำหรับลูกน้อยต้องผ่านการเลือกสรรเป็นอย่างดี เพราะผิวของเด็กแรกเกิดนั้นบอบบาง แพ้ง่าย ว่าที่คุณพ่อคุณแม่ควรใส่ใจมากๆในเรื่องนี้
8. วางแผนค่าใช้จ่าย : นอกเหนือจากค่าใช้จ่ายในการคลอด ควรเตรียมค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน และค่าใช้จ่ายหลังการคลอด อย่างค่าของใช้จำเป็นต่างๆ สำหรับเบบี๋ที่กำลังจะออกมาดูโลก
9. เตรียมตัวไปคลอด : ว่าที่คุณพ่อคุณแม่ควรรู้ข้อมูลการคลอดก่อนถึงวันจริง อาจจะศึกษาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต หรือการเข้าคลาสเรียน ซึ่งในคลาสจะสอนตั้งแต่การเตรียมตัวคลอด ไปจนถึงวิธีดูแลเจ้าตัวเล็ก
อ้างอิงข้อมูลจาก https://medthai.com/เตรียมตัวก่อนคลอด/
การเตรียมความพร้อมสำหรับการคลอด
1. เตรียมความพร้อมก่อนการคลอดลูก
° ทำความเข้าใจกับ 3 ไตรมาสของว่าที่คุณแม่ : ทั้ง 3ไตรมาสเป็นสัญญาณเตือนให้ว่าที่คุณแม่ได้รู้ว่าเบบี๋กำลังจะได้ออกมาเจอโลกกว้างแล้ว
° ออกกำลังกายเบาๆ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงพร้อมรับมือตอนคลอด : ออกกำลังกายเบาๆ เป็นประจำทุกวัน ช่วยให้ร่างกายของว่าที่คุณพร้อมสำหรับการคลอดมากขึ้น
° เข้าคลาสเตรียมความพร้อมสำหรับว่าที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ : เชื่อว่าไม่มีคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนที่ไม่ตื่นเต้นเมื่อรู้ว่าใกล้จะได้เจอเบบี๋เต็มที จึงควรทำความเข้าใจทั้งในเรื่องของการคลอด และวิธีเลี้ยงลูกน้อยให้ดีที่สุด
° ดูแลเรื่องของอาหารการกินขณะตั้งครรภ์ : คุณแม่ควรงดอาหารมื้อหนัก เพื่อเลี่ยงอาการปวดท้อง ฉะนั้นคุณหมอจึงแนะนำให้ดื่มน้ำเยอะๆ และสแน็ค เพื่อคงความแข็งแรงของคุณแม่และเบบี๋
2. วางแผนการคลอด
° กำหนดแผนคลอดด้วยการให้ความร่วมมือของว่าที่คุณพ่อและคุณหมอ : แม้จะกำหนดวันคลอดไม่ได้เป๊ะๆ แต่สามารถกำหนดแผนการคลอดให้ตรงตามความต้องการของว่าที่คุณแม่ได้
° ปรึกษาทางเลือกในการคลอดกับคุณหมอ : ขอคำแนะนำจากคุณหมอ และว่าที่คุณพ่อก่อนมีการตัดสินใจ ไม่ว่าจะเลือกที่บ้านหรือโรงพยาบาลสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือสุขภาพของว่าที่คุณแม่ และเจ้าตัวน้อย
° ตัดสินใจว่าจะไปโรงพยาบาลในช่วงไหน : ปรึกษากับทางคุณหมอว่าในระยะครรภ์ไหนที่ควรจะไปโรงพยาบาล ซึ่งหากมดลูกมีการบีบตัวหลังจากจบระยะแรกแล้ว ควรเดินทางไปโรงพยาบาลทันที
° ปรึกษาวิธีรับมือกับความเจ็บปวดในขณะคลอด : ช่วงตั้งครรภ์ว่าที่คุณแม่จะมีความอ่อนไหวมากกว่าปกติ คุณหมอควรมีแผนไว้รองรับอาการเจ็บปวดรุนแรงระหว่างคลอดของคุณแม่ อย่างการเลือกใช้ยาชา
° พิจารณาปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมในการคลอดให้เป็นส่วนตัว : ปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับว่าที่คุณแม่ช่วยคลายความเจ็บปวด และความกดดันระหว่างคลอดลงได้ ไม่ว่าจะเป็นการหรี่ไฟ เปิดเพลง หรืออาจจะเลือกสวมเสื้อผ้าของคุณแม่เองขณะคลอด
° ขอคำแนะนำจากคุณหมอในกรณีที่ต้องผ่าคลอด : คุณหมอจะแนะนำการผ่าคลอดต่อเมื่อตรวจพบภาวะทางการแพทย์เรื้อรังของคุณแม่ ทารกน้อยอยู่ผิดท่า หรือมีขนาดตัวที่ใหญ่เกินไป
° ตัดสินใจว่าคุณแม่จะให้นมน้องทันทีหลังคลอดหรือไม่ : ช่วงแรกเกิดของเบบี๋ สัมผัสแรกจะทำให้น้องรู้สึกผูกพัน โดยจะเรียกช่วงเวลานี้ว่า Golden Hour คุณแม่ทั้งหลายควรให้นมลูกในช่วง 12เดือนแรก

อ้างอิงข้อมูลจาก <https://www.wikihow.com/Prepare-Yourself-for-Labor-and-Delivery>
Back to Top